พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นับว่าเป็นรายการแข่งขันฟุตบอลที่สนุก นอกจากการแข่งขันที่สูสีของทีมเล็กทีมใหญ่แล้วยังเป็นลีกที่มีการเข้าปะทะที่หนักรุนแรงทำให้นักเตะฝีเท้าดีจำนวนมากในลีกอื่นๆ พอมาเล่นพรีเมียร์ ลีก อังกฤษกลับโชว์ฟอร์มไม่ออกเพราะเกมที่เร็วและหนักไม่มีเวลาให้คิดเยอะจึงทำให้เราเห็นข่าวนักเตะเจ็บบ่อยๆ จากทีมในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ และนี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่เราจะเห็นเหล่าบรรดาดาวรุ่งจำนวนมากพอขึ้นมาอยู่ทีมชุดใหญ่แล้วกลับหมดอนาคตลงเนื่องจากกระดูกที่ยังไม่แข็งพอ ลองมาดูนักเตะพรสวรรค์ที่ถูกคาดหวังไว้สูงแต่กลับถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานจนเก่งไม่สุดกัน
1. ธีโอ วัลคอตต์
นิว อองรี คือฉายาของดาวรุ่งพรสวรรค์สูงสัญชาติอังกฤษคนนี้ หลังจากที่เจ้าตัวแจ้งเกิดจากการลงเล่นให้เซาแธมป์ตันจนทำให้ถูกยักษ์ใหญ่หลายทีมในพรีเมียร์ลีกให้ความสนใจจนสุดท้าย ธีโอ วัลคอตต์ เลือกย้ายไป อาร์เซน่อล ของ อาเซน เวงเกอร์ ที่ได้ชื่อว่าให้โอกาสเด็กมากที่สุดจากบรรดาทีมใหญ่ทั้งหมด แต่ธีโอคงลืมคิดไปว่าสโมสรแห่งนี้นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องให้โอกาสเด็กแล้วก็ยังขึ้นชื่อเรื่องนักเตะบาดเจ็บมากที่สุดเช่นกัน
วัลค็อตต์เริ่มต้นกับอาร์เซน่อลได้อย่างดีจนก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักให้ทีมชุดใหญ่และทีมชาติ แต่ด้วยสไตล์การเล่นที่ไปกับบอลได้ดีทำให้หลายครั้งที่เจ้าตัวมักจะถูกเข้าปะทะด้วยจังหวะรุนแรงจนทำให้ได้รับบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ สะสมจนสุดท้ายต้องถูกหามขึ้นเปลบ่อยครั้งจนกลายเป็นภาพคุ้นชินของแฟนๆ ไปเสียแล้ว ถึงแม้อาการบาดเจ็บจะทำให้ดาวรุ่งผู้นี้ต้องร้างสนามไปบ่อยครั้ง แต่ด้วยพรสวรรค์ที่สูงจนหาตัวจับยากเมื่อฟิตสมบูรณ์ทำให้เป็นกำลังหลักของทีมได้เสมอ แต่สุดท้ายไปไม่สุดกับอาร์เซน่อลจนถูกปล่อยตัวไปและกลายเป็นเพียงดาวรุ่งตลอดกาลของแฟนบอล
บริเวณที่เคยได้รับบาดเจ็บ
- กล้ามเนื้อน่อง
- น่อง (2)
- โคนขาหนีบ
- เอ็นไขว้หน้าหัวเข่าด้านซ้าย
- กล้ามเนื้อท้อง
- ไหล่ (2)
- กล้ามเนื้อต้นขาอักเสบ
- ข้อเท้า
- ตาตุ่มข้อเท้า
- หลัง
2.แจ็ค วิลเชียร์
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าดาวรุ่งผู้ดีที่แฟนบอลอังกฤษและอาร์เซน่อลคาดหวังว่าจะมีส่วนสำคัญในการช่วยทีมให้ประสบความสำเร็จเพราะด้วยพรสวรรค์ที่เจิดจรัสออกมาตั้งแต่สมัยเยาวชนของเจ้าตัวทำให้เป็นที่คาดหวังของแฟนๆ กันอย่างมาก ซึ่งคงจะมีโอกาสเป็นไปได้ถ้าไม่บาดเจ็บบ่อยขนาดนี้ โดยเจ้าหนูดาวรุ่งพรสวรรค์สูงคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณขาข้างขวาบ่อยครั้ง อาทิ หัวเข่า,ฝ่าเท้า,และข้อเท้า ทำให้กลายเป็นปัญหากวนใจของเจ้าตัวในการเล่นฟุตบอลมาโดยตลอดจนหลุดจากทีมตัวจริงของอาเซน่อล ซึ่งในที่สุดก็ต้องออกจากต้นสังกัดชั่วคราวเพื่อหาโอกาสและเรียกความมั่นใจเดิมๆ กลับมาอีกครั้ง
บริเวณที่เคยได้รับบาดเจ็บ
- หัวเข่าซ้าย
- ข้อเท้าขวา(7)
- ข้อเท้าซ้าย(5)
- เท้าขวา,ซ้าย
- น่อง
- ต้นขา
- เอ็นร้อยหวาย(2)
- หน้าท้อง (3)
3.โอเว่น ฮาร์กรีฟส์
ฤดูกาลแรกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหมือนจะเต็มไปด้วยกลีบกุหลาบ เมื่อกองกลางเชิงสูงสัญชาติ อังกฤษ,เวลส์ และแคนาดา ที่ย้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค มาด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์และสามารถพาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์มาครองได้อย่างสวยงามแต่ทุกอย่างที่สวยงามก็พังทลายเมื่อ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหัวเข่าทั้ง 2 ข้างอย่างรุนแรงจนต้องหายหน้าจากวงการฟุตบอลไปร่วม 3 ปี
อาการบาดเจ็บของเจ้าตัวนั้นย่ำแย่ถึงขนาดที่ ดร.ริชาร์ด สตีดแมน ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น หมอเทวดา เคยออกมากล่าวถึงอาการบาดเจ็บของเข่าทั้งสองข้างของ ฮาร์กรีฟส์ คือ อาการบาดเจ็บที่ร้ายแรงและย่ำแย่ที่สุดที่เคยเจอมา
สุดท้ายในปี 2011 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็เลือกที่จะไม่ต่อสัญญากับเจ้าตัว ซึ่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมคู่แข่งร่วมเมืองยอมเสี่ยงโดยการเซ็นสัญญาระยะสั้น 1 ปี เพื่อให้โอกาสดาวเตะพรสวรรค์สูงผู้นี้แต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่ติดตัวทำให้ ฮาร์กรีฟส์ ได้รับโอกาสลงเล่นตลอดทั้งปีไปเพียง 4 นัด ทำได้ 1 ประตูเท่านั้นจนจบฤดูกาล หลังจากนั้น โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ถูกปล่อยตัวออกจากทีมและพยายามที่จะหาสังกัดใหม่ในการลงเล่นอีกครั้งถึงขนาดทำคลิปวีดีโอโปรโมทตัวเองลง Youtube เพื่อแสดงให้เห็นถึงความฟิตแต่ก็ไม่มีสโมสรไหนกล้าเสี่ยงกับอาการบาดเจ็บของเจ้าตัวอีกเลย
บริเวณที่เคยได้รับบาดเจ็บ
- หัวเข่า(3)
- กระดูกสะบ้า
- ต้นขา
- เส้นเอ็นอักเสบ
4.โจนาธาน วู้ดเกต
กองหลังที่แฟนบอลอังกฤษทุกคนเชื่อกันว่าหากเจ้าตัวฟิตเต็ม 100% จะเก่งกว่าทั้ง ริโอ เฟอดินานด์ และ จอห์น เทอร์รี่ แต่ความหวังของแฟนบอลอังกฤษก็เป็นได้แค่ความเชื่อเมื่อ โจนาธาน วู้ดเกต กองหลังที่โด่งดังสุดขีดสมัยที่จับคู่กับ ริโอ เฟอดินานด์ ในทีม ลีดส์ ยูไนเต็ด จนถูกคาดการณ์ว่าถ้า 2 คนนี้อยู่ในฟอร์มที่ดีจะช่วยให้อังกฤษมีโอกาสคว้าแชมป์โลกได้มากขึ้น
จากฟอร์มที่เปรี้ยงปร้างทำให้นิวคลาสเซิลสอยเจ้าตัวมาร่วมทีมหลังจากลีดส์ต้องตกชั้นจากลีกสูงสุด ซึ่งหลังจากมาร่วมทีมสาลิกาดงก็ทำผลงานได้ดีจนไปเตะตา เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งสเปนที่ทำการทุ่มเงินกว่า 13 ล้านปอนด์ ในการดึงกองหลังผู้ดีรายนี้ไปร่วมทีมทั้งที่ในขณะนั้นเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ก็ตาม
วู้ดเกตใช้ชีวิตใหม่ในเมืองหลวงของสเปนโดยอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลมากกว่าสนามฟุตบอลซึ่งเค้าใช้เวลาในการพักฟื้นไปทั้งหมด 1 ปีเต็ม ก่อนที่จะกลับมาลงสนามนัดแรกและสร้างผลงานชิ้นโบว์แดงให้ประจักษ์แก่สายตาแฟนๆ ของทีมเมื่อทำเข้าประตูตัวเอง 1 ลูก และตบท้ายด้วยใบแดงอีก 1 ใบ ส่งผลให้ช่วงเจ้าตัวต้องจำใจกลับไปนั่งที่ม้านั่งสำรองและได้รับโอกาสจาก เรอัล มาดริด น้อยลงก่อนที่จะถูกปล่อยตัวกลับมาเล่นในลีกอังกฤษกับสเปอร์ส และสโต๊คก่อนที่จะมาแขวนสตั๊ดกับมิดเดิ้ลส์โบรห์เป็นทีมสุดท้าย
บริเวณที่เคยได้รับบาดเจ็บ
- น่อง
- หลัง(2)
- ขาหนีบ(4)
- กล้ามเนื้อฉีก
5. แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
ถือเป็นกองหน้าสัญชาติอังกฤษที่ฝากผีฝากไข้ได้มากที่สุดคนหนึ่งเพราะมีความเร็วในการเลี้ยงบอลและการใช้ขาสับหลอกคู่ต่อสู้ได้อย่างว่องไวบวกกับการการทำประตูที่คมจึงสามารถพังประตูคู่แข่งได้เป็นกอบเป็นกำ อีกเอกลักษณ์ที่แฟนบอลจดจำ คือ ท่าเต้นดีใจที่คนไทยเรียกว่า เต้ยโศก
สเตอร์ริดจ์ ถูกปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น โดยฤดูกาลที่ดีที่สุดนั้นทำได้กับหงส์แดง ลิเวอร์พูล ฤดูกาล 2013-14 ที่ลงสนามไป 33 นัด ยิง 24 ประตู กับ 7 แอสซิสต์ แต่หลังจากนั้นก็โดนอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่เรื่อยจนไม่สามารถคืนฟอร์มกลับเก่งมาได้อีกเลยไป โดยอาการบาดเจ็บที่เกิดกับสเตอร์ริดจ์บ่อยที่สุด คือ อาการบาดเจ็บบริเวณสะโพกซึ่งถือว่าเป็นการบาดเจ็บตรงที่เดิมซ้ำๆ ที่ทำให้เจ้าตัวรู้สึกหงุดหงิดและไปไม่สุดเลยทีเดียว
บริเวณที่เคยได้รับบาดเจ็บ
- สะโพก(4)
- ตาตุ่ม
- โคนขาหนีบ
- เอ็นร้อยหวาย(3)
- กล้ามเนื้อต้นขา
- ข้อเท้า
- เป็นไข้
- น่อง
- หัวเข่าบวมน้ำ